แบล็คแจ็ค (Blackjack) เป็นเกมคาสิโนต้นแบบของบาคาร่าและมีต้นกำเนิดมาจากประเทศฝรั่งเศสในช่วงศตวรรษที่ 17 ซึ่งเดิมทีนั้นเกมแบล็คแจ็คมีชื่อเรียกในภาษาฝรั่งเศสว่า ‘Vingt-et-un’ ซึ่งแปลว่า 21

เป็นเกมไพ่ที่ถูกเล่นในกลุ่มชนชั้นสูงในราชสำนักเท่านั้นและในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 แบล็คแจ็คก็ได้เผยแพร่มายังสหรัฐอเมริกาและมีชื่อเรียกใหม่ว่า ‘แบล็คแจ็ค’ นับแต่นั้นมา

แม้ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานกว่า 3 ศตวรรษ แต่แบล็คแจ็คก็ไม่ถูกลืมหายไปตามกาลเวลา และยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีแนวทางการเล่นคาสิโนออนไลน์มากมายเกิดขึ้น แล้วอะไรกันล่ะที่ทำให้เกมไพ่อันแสนเก่าแก่เกมนี้ยังคงได้รับความนิยมอยู่ แล้วเกมนี้เล่นอย่างไร มีกฎ รูปแบบการเดิมพันและอัตราการจ่ายเงินอย่างไร มาเรียนรู้กันเลย!

เรียนรู้กฎและอัตราต่อรองในแบล็คแจ็ค

หนึ่งในเหตุผลที่ว่าทำไมเกมไพ่แบล็คแจ็คยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องและเป็นที่ชื่นชอบของผู้เล่นส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะแบล็คแจ็คมีกฎที่เข้าใจง่ายและมีอัตราการต่อรองที่ดี นอกเหนือจากข้อมูลแบล็คแจ็คทั่วๆ ไปที่เราได้เขียนไว้แล้ว ยังมีข้อมูลอื่นๆ อีกดังต่อไปนี้

เป้าหมายในการเล่นแบล็คแจ็ค

เป้าหมายในการเล่นแบล็คแจ็คก็คือ การสร้างไพ่ในมือที่ดีที่สุดที่มีแต้มไพ่ชนะเจ้ามือ ซึ่งแต้มไพ่ที่ดีที่สุดในแบล็คแจ็คคือ 21 แต้ม ผู้เล่นสามารถขอจั่วไพ่เพิ่มได้เรื่อย ๆ จนกว่าจะพอใจแต่ต้องระวังมิให้มีแต้มเกิน 21 แต้มมิเช่นนั้นจะถูกปรับแพ้ทันที

แต้มไพ่ในแบล็คแจ็ค

สำหรับวิธีการนับแต้มไพ่ในแบล็คแจ็คนั้นง่ายมาก ๆ โดยไพ่ J Q และ K นั้นมีค่าเท่ากับ 10 แต้ม A มีค่าเท่ากับ 1 หรือ 11 แต้ม ส่วนไพ่ 2-10 นั้นมีค่าเท่ากับตัวเลขที่ปรากฎบนหน้าไพ่ 

แบล็คแจ็ค แต้มไพ่
แต้มไพ่แบล็คแจ็ค

ยกตัวอย่างวิธีรวมแต้มไพ่: 

  1. J + 4 เท่ากับ 14 แต้ม
  2. K + 10 เท่ากับ 20 แต้ม
  3. 2 + 5 + Q เท่ากับ 17 แต้ม

อัตราการต่อรองในแบล็คแจ็ค

อัตราการต่อรองในแบล็คแจ็คนั้นค่อนข้างจะผันผวนเพราะขึ้นอยู่กับจำนวนสำรับไพ่ที่ใช้ในการเล่น ซึ่งโดยปกติแล้ว แบล็คแจ็ค 1 โต๊ะจะใช้ไพ่ตตั้งแต่ 1, 2, 4, 6 หรือ 10 สำรับ ยิ่งจำนวนสำรับเพิ่มมากขึ้น อัตราการต่อรองก็จะยิ่งเพิ่มสูงมากขึ้น ดังต่อไปนี้

แต้มไพ่และความยากในการออก

ไพ่ 2 ใบแรกที่เจ้ามือแจกมานั้นมีความง่ายและความยากในการออกเป็นแต้มต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

แต้มไพ่ความยากในการออก
110%
1231%
1339%
1456%
1558%
1662%
1769%
1877%
1985%
2092%
21100%

ความได้เปรียบของเจ้ามือในแบล็คแจ็ค

นอกจากจำนวนสำรับที่เพิ่มมากขึ้นจะทำให้อัตราต่อรองเพิ่มสูงขึ้นแล้วยังมีผลต่อค่าความได้เปรียบของเจ้ามืออีกด้วย ซึ่งมีดังต่อไปนี้

จำนวนสำรับไพ่ความได้เปรียบของเจ้ามือ
10.17%
20.46%
40.60%
60.64%
80.66%
เจ้ามือ แบล็คแจ็ค ความได้เปรียบ
ความได้เปรียบของเจ้ามือในแบล็คแจ็ค

คำศัพท์ของการลงไพ่แบบต่างๆ ในแบล็คแจ็ค

แบล็คแจ็คนั้นมีความคล้ายคลึงกับเกมไพ่โป๊กเกอร์ตรงที่แบล็คแจ็คจะมีชื่อเรียกการลงไพ่ต่าง ๆ โดยเฉพาะซึ่งนี่เป็นสิ่งสำคัญที่คุณจำเป็นจะต้องเรียนรู้ถ้าหากคุณต้องการเป็นเซียนไพ่แบล็คแจ็คและต้องการใช้กลยุทธ์การเล่นแบล็คแจ็คให้ได้ผล

ผู้เล่นขอให้เจ้ามือแจกไพ่เพิ่มอีก 1 ใบ ซึ่งผู้เล่นสามารถขอจั่วเพิ่มได้เรื่อย ๆ โดยไม่จำกัดแต่ต้องระวังมิให้เกิน 21 แต้ม

ผู้เล่นอยู่นิ่ง ๆ และไม่ขอจั่วไพ่เพิ่มเพราะผู้เล่นพึงพอใจในแต้มไพ่ในมือแล้ว 

ผู้เล่นแบ่งไพ่ออกเป็น 2 กองเมื่อผู้เล่นพบว่าไพ่ 2 ใบแรกที่เจ้ามือแจกมานั้นเป็นไพ่หน้าเดียวกัน

หากผู้เล่นมั่นใจว่าจะสามารถชนะเจ้ามือได้แน่ ๆ ในตานี้ ผู้เล่นเพิ่มเงินเดิมพันเป็น 2 เท่าจาก Ante เพื่อแลกกับไพ่พิเศษอีก 1 ใบ

เป็นชื่อเรียกเหตุการณ์ที่ผู้เล่นขอเจ้ามือจั่วไพ่เพิ่มแล้วผลรวมแต้มไพ่ทั้งหมดเกิน 21 แต้มและถูกปรับแพ้

กฎ กติกาการจ่ายเงินแบล็คแจ็ค

กติกาในการจ่ายเงินไพ่แบล็คแจ็คนั้นมีทั้งหมด 5 กฎด้วยกัน ดังต่อไปนี้

  1. หากไพ่ 2 ใบแรกของคุณเป็นไพ่แบล็คแจ็คพอดี คุณจะได้รับเงินรางวัล 1.5:1 เท่าตัว
  2. หากคุณจั่วไพ่เรื่อย ๆ แล้วได้แต้มชนะเจ้ามือ คุณจะได้รับเงินรางวัล 1:1 เท่าตัว
  3. หากคุณทำการเพิ่มเงินเดิมพัน 2 เท่า (Double Down) แล้วชนะ คุณจะได้รับเงินรางวัล 2:1 เท่าตัว
  4. หากคุณแบ่งไพ่แล้วจั่วไพ่เพิ่มแล้วชนะ คุณจะได้รับเงินรางวัล 1:1 ของแต่ละกอง
  5. หากคุณทำการเดิมพัน 2 เท่าหลังจากการแบ่งไพ่และคุณชนะ คุณจะได้รับเงินรางวัล 2:1 เท่าตัว

รู้จักกับ Side Bets ในแบล็คแจ็ค

ไซด์เบ็ท (Side Bets) หรือประพจน์ เป็นเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นอย่างเหมาะเจาะพอดีในเกม ซึ่งในเกมแบล็คแจ็คนั้นมีไซด์เบ็ททั้งหมด 13 อย่างด้วยกัน ดังต่อไปนี้

ประกันภัย (Insurance)

เป็นการทำประกันภัยโดยการเพิ่มเงินเดิมพันครึ่งหนึ่งของเดิมพันเดิมในกรณีที่เจ้ามือเปิดไพ่มาแล้วได้เอซ (Ace) และถ้าหากเจ้ามือชนะไพ่ป๊อก (Natural) ผู้เล่นจะเสียเงินเดิมพันเพียงแค่ครึ่งเดียวแทนที่จะเสียทั้งหมด 

คู่สมบูรณ์ (Perfect Pairs)

ไพ่ 2 ใบแรกที่เจ้ามือแจกมานั้นเป็นไพ่ที่มีตัวเลข สีและหน้าเหมือนกันพอดี อย่างไรก็ตาม นอกจาก Perfect Pairs แล้วยังมี Pairs อื่น ๆ อีก 2 อย่าง ดังนี้:

21+3

ไพ่ 2 ใบแรกของผู้เล่นที่รวมกันได้ 21 แต้มพอดี + ไพ่ 1 ใบแรกของเจ้ามือเปิดออกมาเป็นกลุ่มไพ่: ฟลัช สเตรท 3 ใบ สเตรทฟลัชและ 3 ใบพอดี

เดิมพันด้านหลัง (Bet Behind)

โดยปกติแล้วโต๊ะแบล็คแจ็ค 1 โต๊ะจะมีผู้เล่นได้สูงสุด 6 คน แต่เมื่อที่นั่งเต็มแล้ว ผู้เล่นคนอื่น ๆ ที่รอนั้นก็ยังสามารถวางเงินเดิมพันได้อยู่ด้วยการวางเงินเดิมพันข้าง ๆ ต่อกับเงินเดิมพันของผู้เล่นที่มีที่นั่งบนโต๊ะ

รอยัลแมทช์ (Royal Match)

หากไพ่ 2 ใบแรกที่ผู้เล่นได้รับเป็น K และ Q ผู้เล่นจะชนะในทันที

สูง/ต่ำกว่า 13 (Over/Under 13)

ไพ่ 2 ใบแรกที่ผู้เล่นได้รับมานั้นมีแต้มสูงหรือต่ำกว่า 13 แต้ม

ซุปเปอร์ 7 (Super Sevens)

ไพ่ 2 ใบแรกที่ผู้เล่นได้รับมานั้นเป็น 7 และ 7

ลักกี้เลดี้ส์ (Lucky Ladies)

ไพ่ 2 ใบแรกรวมกับไพ่จั่วใหม่อีก 1 ใบที่ออกมาเป็นไพ่ตองหรือไพ่แต้มเรียง เช่น 7-7-7 หรือ 6-7-8 เป็นต้น

ฮันนี่โบนัส (Honey Bonus)

เป็นชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งของ 21+1 ซึ่งไพ่ 2 ใบแรกของผู้เล่นนั้นมีแต้ม 21 แต้ม + ไพ่ 1 ใบแรกของเจ้ามือเป็นไพ่ที่รวมออกมาเป็น ฟลัช สเตรท 3 ใบ สเตรทฟลัชหรือ 3 ใบพอดี

ลักกี้ 7 (Lucky 7)

ไพ่ 2 ใบแรกเป็น 7-7 และไพ่ใบที่ 3 เป็น 7 รวมแล้วเป็น 7-7-7 

ท็อปทรี (Top 3)

ไซด์เบ็ท 21+1 ที่เป็นกลุ่มไพ่ 3 อันดับแรก ได้แก่ ฟลัช สเตรท และ 3 ใบ

ฮอททรี (Hot 3)

ไพ่ 2 ใบแรกรวมกับไพ่ใบที่ 3 แล้วได้แต้ม 19-21 แต้ม

บัสเตอร์ (Buster)

ผู้เล่นชนะเจ้ามือในเหตุการณ์ที่เจ้ามือจั่วไพ่เพิ่มแล้วได้แต้มเกิน 21 แต้ม

กติกา วิธีการเล่นแบล็คแจ็ค – แบล็คแจ็คเล่นยังไง ขั้นตอนอย่างละเอียด

แบล็คแจ็คเล่นยังไง ขั้นตอนการเล่นแบล็คแจ็คนั้นมีดังต่อไปนี้

ขั้นตอนที่ 1: ฝากเงิน

อันดับแรกคือคุณจะต้องเติมเงินเข้าไปในบัญชีผู้เล่นก่อนซึ่งทางเว็บไซต์แต่ละเว็บไซต์จะมีตัวเลือกในการฝากเงินหลากหลายตัวเลือกด้วยกัน จากนั้นก็กรอกจำนวนเงินที่คุณต้องการฝาก กดรับโบนัสและกดยืนยัน

ขั้นตอนที่ 2: วางเงินเดิมพัน

เมื่อคุณเข้ามาในเกมแล้วให้เลือกชิปเดิมพันที่คุณต้องการและทำการวางชิปลงบนโต๊ะที่หน้าจอ โปรดพึงระลึกไว้เสมอว่าเกมพนันทุกชนิดสร้างขึ้นมาเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น ควรเล่นอย่างมีความรับผิดชอบและชิปเดิมพันที่คุณเลือกมานั้นควรจะเป็นจำนวนเงินที่คุณสามารถทำใจได้ว่าจะสูญเสียได้

ขั้นตอนที่ 3: เจ้ามือจั่วไพ่

เจ้ามือจะทำการจั่วไพ่และแจกไพ่ให้กับผู้เล่นคนละ 2 ใบซึ่งจะมีโอกาสเกิดเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ดังต่อไปนี้

ฉันได้ไพ่แบล็คแจ็ค!

คุณได้ไพ่ 21 แต้มพอดี 

ฉันได้ไพ่ไซด์เบ็ท!

คุณได้ไพ่ 1 ใน 13 ไซด์เบ็ทดังกล่าวข้างต้น

ขั้นตอนที่ 4: เวลาในการตัดสินใจ!

นอกจากขั้นตอนข้างต้นแล้ว หลังจากที่เจ้ามือแจกไพ่ 2 ใบแรก คุณมีโอกาสเกิดเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์และคุณสามารถใช้กลยุทธ์ในการเดิมพันได้ระหว่างนี้

ฉันต้องจั่วไพ่เพิ่ม

ไพ่ 2 ใบแรกที่แจกมานั้นยังมีแต้มที่ไม่ดีเท่าใดนัก คุณจำเป็นต้องจั่วไพ่เพิ่มเพื่อสร้างไพ่ที่ดีที่สุดและชนะเจ้ามือ แต่โปรดระวังมิให้แต้มไพ่เกิน 21 แต้มมิเช่นนั้นจะถูกปรับแพ้ทันที

ฉันอยู่รอ

ไพ่ 2 ใบแรกที่แจกมานั้นมีแต้มสูงอยู่แล้ว คุณพอใจและเลือกที่จะไม่จั่วไพ่เพิ่ม 

ขั้นตอนที่ 5: ตาของเจ้ามือ

เมื่อผู้เล่นทุกคนจั่วไพ่จนพอใจครบทุกคนแล้ว เจ้ามือจะทำการจั่วไพ่ให้ตนเอง

ขั้นตอนที่ 6: รับเงินรางวัล!

หากไพ่ของคุณชนะเจ้ามือ คุณจะได้รับเงินรางวัลตามกฎการจ่ายเงินของแบล็คแจ็ค หากแต้มไพ่ของคุณน้อยกว่าเจ้ามือ คุณจะเสียเงินเดิมพัน

บทสรุปเกี่ยวกับกฎ กติกา แบล็ตแจ็ค อัตราการเดิมพันและวิธีการเดิมพันแบล็คแจ็ค

แบล็คแจ็คเป็นเกมคาสิโนที่เล่นง่ายมาก ๆ เกมหนึ่งเพราะมีจุดมุ่งหมายในการเล่นคือ ผู้เล่นจะต้องสร้างไพ่ในมือที่มีแต้มมากกว่าเจ้ามือ ซึ่งวิธีการสร้างไพ่ในมือนั้นสามารถทำได้ด้วยการขอจั่วไพ่เพิ่มได้เรื่อย ๆ จนกว่าผู้เล่นจะพึงพอใจแต่ต้องระวังมิให้แต้มไพ่เกิน 21 แต้มมิเช่นนั้นจะถูกปรับแพ้ทันที นอกจากนี้แล้ว แบล็คแจ็คยังมีกฎในการจ่ายเงินถึง 5 กฎ อีกทั้งยังมีไซด์เบ็ทที่น่าสนใจถึง 13 ไซด์เบ็ทด้วยกัน 

สามารถเล่นแบล็คแจ็คได้จากคาสิโนออนไลน์ในประเทศไทยที่เราแนะนำมากมาย โดยสามารถหัดเล่นแบล็คแจ็คแบบทดลอง หรือแบล็คแจ็คเดโม่ได้ หรือจะลงเงินจริงก็ได้ พร้อมโบนัสมากมายปุ๊บปั๊บรับโชค!

คำถามที่พบบ่อย

ตอบ: คือเกมคาสิโนประเภทหนึ่งซึ่งมีจุดมุ่งหมายคือ ผู้เล่นจะต้องสร้างไพ่ในมือที่มีแต้มมากกว่าเจ้ามือและไพ่ที่ดีที่สุดคือ 21 แต้ม
ตอบ: แบล็คแจ็คมีกฎในการจ่ายเงิน 5 กฎซึ่งจะจ่ายเงินเริ่มต้นที่ 1:1 และสูงสุด 2:1
ตอบ: Bust เป็นคำเรียกเหตุการณ์ที่มีการจั่วไพ่เพิ่มแล้วเกิน 21 แต้ม
ตอบ: เป็นไพ่ 2 ใบแรกที่รวมกันแล้วได้ 21 แต้มพอดี